วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557

กัลยาณธรรมชาดก

๑. กัลยาณธรรมชาดก
ผู้มีกัลยาณธรรม
             [๑๙๑] ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมแห่งชน กาลใด บุคคลได้ธรรมสมัญญาในโลกว่า                           ผู้มีกัลยาณธรรม กาลนั้น นรชนผู้มีปัญญา ไม่พึงทำตนให้เสื่อมจาก                           สมัญญานั้นเสีย สัตบุรุษทั้งหลายย่อมถือไว้ซึ่งธุระด้วยหิริและโอตตัปปะ.              [๑๙๒] ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมแห่งชน สมัญญาว่า ผู้มีกัลยาณธรรมในโลกนี้                           มาถึงข้าพระพุทธเจ้าแล้วในวันนี้ ข้าพระพุทธเจ้าพิจารณาเห็นสมัญญาอัน                           นั้น จึงได้บวชเสียในคราวนี้ ความพอใจในการบริโภคกามในโลกนี้                           มิได้มีแก่ข้าพระพุทธเจ้าเลย.
จบ กัลยาณธรรมชาดกที่ ๑.
๒. ทัททรชาดก
ราชสีห์กับสุนัขจิ้งจอก
             [๑๙๓] ข้าแต่คุณพ่อผู้ครอบงำมฤคชาติทั้งหลาย ใครหนอมีเสียงใหญ่โตจริง                           ย่อมทำทัททรบรรพตให้บันลือสนั่นยิ่งนัก ราชสีห์ทั้งหลาย ย่อมไม่อาจ                           บันลือโต้ตอบมันได้ นั่นเรียกว่า สัตว์อะไร?              [๑๙๔] ลูกเอ๋ย นั่นคือสุนัขจิ้งจอก เป็นสัตว์เลวทรามต่ำช้ากว่ามฤคชาติทั้งหลาย                           มันหอนอยู่ ราชสีห์ทั้งหลายรังเกียจชาติของมัน จึงได้พากันนิ่งเฉยเสีย.
จบ ทัททรชาดกที่ ๒.
๓. มักกฏชาดก
ว่าด้วยลิง
             [๑๙๕] คุณพ่อครับ มาณพนั่นมายืนพิงต้นตาลอยู่ อนึ่ง เรือนของเรานี้ก็มีอยู่                           ถ้ากระไร เราจะให้เรือนแก่มาณพนั้น.              [๑๙๖] ลูกเอ๋ย เจ้าอย่าเรียกมันมาเลย มันเข้ามาแล้ว จะพึงประทุษร้ายเรือน                           ของเรา หน้าของพราหมณ์ผู้มีศีลบริสุทธิ์ หาเป็นเช่นนี้ไม่.
จบ มักกฏชาดกที่ ๓.
๔. ทุพภิยมักกฏชาดก
ว่าด้วยการคบคนชั่ว
             [๑๙๗] เราได้ให้น้ำเป็นอันมากแก่เจ้า ผู้ถูกความร้อนแผดเผา หิวกระหายอยู่                           บัดนี้ เจ้าได้ดื่มน้ำแล้ว ยังหลอกล้อเปล่งเสียงว่า กิกิ อยู่ได้ การคบหา                           กับคนชั่ว ไม่ประเสริฐเลย.              [๑๙๘] ท่านได้ยิน หรือได้เห็นมาบ้างหรือว่า ลิงตัวไหนชื่อว่า เป็นสัตว์มีศีล                           เราจะถ่ายอุจจาระรดศีรษะท่านเดี๋ยวนี้แล้วจึงจะไป นี่เป็นธรรมดาของ                           พวกเรา.
จบ ทุพภิยมักกฏชาดกที่ ๔.
๕. อาทิจจุปัฏฐานชาดก
ว่าด้วยลิงไหว้พระอาทิตย์
             [๑๙๙] ได้ยินว่า ในบรรดาสัตว์ทั้งปวง สัตว์ผู้ตั้งมั่นอยู่ในศีลมีอยู่ ท่านจง                           ดูลิงผู้ลามก ยืนไหว้พระอาทิตย์อยู่เถิด.              [๒๐๐] ท่านทั้งหลาย ไม่รู้จักปกติของมัน เพราะเหตุไม่รู้จึงได้พากันสรรเสริญ                           ลิงตัวนี้มันเผาโรงไฟเสีย และทุบต่อยคณโฑน้ำเสียสองใบ.
จบ อาทิจจุปัฏฐานชาดกที่ ๕.
๖. กฬายมุฏฐิชาดก
ว่าด้วยโลภมาก
             [๒๐๑] ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมแห่งชน ลิงผู้เที่ยวหาอาหารตามกิ่งไม้นี้ โง่                           เขลายิ่งนัก ปัญญาของมันก็ไม่มี มันสาดถั่วทั้งกำเสียหมดสิ้น แล้ว                           เที่ยวค้นหาถั่วเมล็ดเดียวที่ตกลงยังพื้นดิน.              [๒๐๒] ข้าแต่พระราชา พวกเราก็ดี ชนเหล่าอื่นที่โลภจัดก็ดี จะต้องละทิ้ง                           ของมากเพราะของน้อย เปรียบเหมือนวานรเสื่อมจากถั่วทั้งหมด เพราะ                           ถั่วเมล็ดเดียว ฉะนั้น.
๗. ตินทุกชาดก
ว่าด้วยอุบาย
             [๒๐๓] มนุษย์ทั้งหลายมีมือถือแล่งธนู ถือดาบอันคมแล้ว พากันมาแวดล้อม                           พวกเราไว้โดยรอบ ด้วยอุบายอย่างไร พวกเราจึงจะรอดพ้นไปได้.              [๒๐๔] ประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง จะพึงเกิดมีแก่มนุษย์ทั้งหลายผู้มีกิจมาก                           เป็นแน่ ยังมีเวลาพอที่จะเก็บเอาผลไม้มากินได้ ท่านทั้งหลาย จง                           พากันกินผลมะพลับเถิด.
จบ ตินทุกชาดกที่ ๗.
๘. กัจฉปชาดก
ว่าด้วยเต่า
             [๒๐๕] เราเกิดที่นี่ เติบโตที่นี่ เพราะเหตุนี้ เราจึงได้อาศัยอยู่ที่เปือกตม                           เปือกตมกลับทับถมเราให้ทุรพล ดูกรท่านภัคควะ เพราะเหตุนั้น                           ข้าพเจ้าจะขอกล่าวกะท่าน ขอท่านจงฟังคำของข้าพเจ้าเถิด.              [๒๐๖] บุคคลได้รับความสุขในที่ใด จะเป็นในบ้าน หรือในป่าก็ตาม ที่นั้นเป็น                           ที่เกิด เป็นที่เติบโตของบุรุษผู้รู้จักเหตุผล บุคคลพึงเป็นอยู่ได้ในที่ใด                           ก็พึงไปที่นั้น ไม่พึงให้ที่อยู่ฆ่าตนเสีย.
จบ กัจฉปชาดกที่ ๘.
๙. สตธรรมชาดก
ว่าด้วยสตธรรมมาณพ
             [๒๐๗] อาหารที่เราบริโภค น้อยด้วย เป็นเดนด้วย อนึ่ง เขาให้แก่เราโดย                           ยากเย็นเต็มที เราเป็นชาติพราหมณ์บริสุทธิ์ เพราะเหตุนั้น อาหารที่                           เราบริโภคเข้าไปแล้วจึงกลับออกมาอีก.              [๒๐๘] ภิกษุใด ละทิ้งธรรมเสีย หาเลี้ยงชีพโดยไม่ชอบธรรม ภิกษุนั้น ก็ย่อม                           ไม่เพลินด้วยลาภ แม้ที่ได้มาแล้ว เปรียบเหมือนสตธรรมมาณพ ฉะนั้น.
จบ สตธรรมชาดกที่ ๙.
๑๐. ทุทททชาดก
ว่าด้วยคติของคนดีคนชั่ว
             [๒๐๙] เมื่อสัตบุรุษทั้งหลาย ให้สิ่งของที่ให้ยาก ทำกรรมที่ทำได้ยาก อสัตบุรุษ                           ทั้งหลาย ย่อมทำตามไม่ได้ ธรรมของสัตบุรุษรู้ได้ยาก.              [๒๑๐] เพราะเหตุนั้น คติจากโลกนี้ของสัตบุรุษและอสัตบุรุษจึงต่างกัน                           อสัตบุรุษย่อมไปสู่นรก สัตบุรุษย่อมมีสวรรค์เป็นที่ไป ณ เบื้องหน้า.
จบ ทุทททชาดกที่ ๑๐.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น