วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557

สุราปานชาดก

๑. สุราปานชาดก
โทษของการดื่มสุรา
             [๘๑] พวกผมได้ดื่มสุราแล้ว พากันฟ้อนรำขับร้อง และร้องไห้ พวกผมดื่มสุรา                           อันกระทำให้เสียสติแล้ว ท่านอาจารย์ไม่ได้เห็น กลายเป็นเหมือนวานร                           ไป.
จบ สุราปานชาดกที่ ๑.
๒. มิตตวินทชาดก
ว่าด้วยจักรบดศีรษะ
             [๘๒] ท่านเลยปราสาทแก้วผลึก ปราสาทเงิน และปราสาทแก้วมณีมาแล้ว                           ท่านนั้นเป็นผู้ถูกจักรกรดบนศีรษะแล้ว บาปยังไม่สิ้นตราบใด ท่านยังมี                           ชีวิตอยู่ ก็จักไม่พ้นจากจักรกรดตราบนั้น.
จบ มิตตวินทชาดกที่ ๒.
๓. กาฬกัณณิชาดก
ว่าด้วยมิตร
             [๘๓] บุคคลชื่อว่า เป็นมิตรด้วยการเดินร่วมกัน ๗ ก้าว ชื่อว่าเป็นสหายด้วย                           การเดินร่วมกัน ๑๒ ก้าว และชื่อว่าเป็นญาติด้วยการอยู่ร่วมกันเดือนหนึ่ง                           หรือกึ่งเดือน ส่วนผู้ชื่อว่ามีตนเสมอกันก็ด้วยการอยู่รวมกันยิ่งกว่านั้น                           เราจะละทิ้งมิตร ชื่อว่ากาฬกัณณี ผู้ชอบกันมานาน เพราะความสุข                           ส่วนตัวได้อย่างไร?
จบ กาฬกัณณิชาดกที่ ๓.
๔. อัตถัสสทวารชาดก
ว่าด้วยคุณธรรม ๖ ประการ
             [๘๔] บุคคลควรปรารถนาลาภอย่างเยี่ยม คือ ความไม่มีโรค ๑ ศีล ๑ ความรู้                           ของท่านผู้รู้ทั้งหลาย ๑ การสดับฟัง ๑ ความประพฤติตามธรรม ๑ ความ                           ไม่ท้อถอย ๑ คุณธรรม ๖ ประการนี้ เป็นประตู เป็นประธานแห่งประ-                           โยชน์.
จบ อัตถัสสทวารชาดกที่ ๔.
๕. กิมปักกชาดก
ว่าด้วยโทษของกาม
             [๘๕] ผู้ใดไม่รู้โทษในอนาคต มัวเสพกามอยู่ กามเหล่านั้นจะต้องล้างผลาญ                           ผู้นั้นในเวลาให้ผล เหมือนผลแห่งต้นกิมปักกพฤกษ์ ทำให้คนผู้ที่บริโภค                           ตายฉะนั้น.
จบ กิมปักกชาดกที่ ๕.
๖. สีลวีมังสนชาดก
ว่าด้วยผู้มีศีล
             [๘๖] ได้ยินว่าศีลเป็นคุณชาติงามเป็นเยี่ยมในโลก เชิดดูงูใหญ่มีพิษร้ายแรง                           เป็นสัตว์มีศีล เหตุนั้น จึงไม่เบียดเบียนใคร.
จบ สีลวีมังสนชาดกที่ ๖.
๗. มังคลชาดก
ว่าด้วยถือมงคลตื่นข่าว
             [๘๗] ผู้ใดไม่ถือมงคลตื่นข่าว ไม่ถืออุกกาบาต ไม่ถือความฝัน ไม่ถือลักษณะดี                           หรือชั่ว ผู้นั้นชื่อว่าล่วงพ้นโทษแห่งการถือมงคลตื่นข่าว ครอบงำกิเลส                           เครื่องประกอบสัตว์ไว้ในภพที่เป็นคูกั้น ย่อมไม่กลับมาเกิดอีก.
จบ มังคลชาดกที่ ๗.
๘. สรัมภชาดก
ว่าด้วยการพูดดี-พูดชั่ว
             [๘๘] บุคคลพึงเปล่งวาจางามเท่านั้น ไม่พึงเปล่งวาจาชั่วเลย การเปล่งวาจางาม                           ยังประโยชน์ให้สำเร็จ ผู้เปล่งวาจาชั่วย่อมเดือดร้อน.
จบ สารัมภชาดกที่ ๘.
๙. กุหกชาดก
พูดดีได้เงินได้ทอง
             [๘๙] ได้ยินว่า วาจาของท่านผู้พูดคำอ่อนหวานเป็นวาจาไพเราะ ท่านข้องอยู่                           เพราะหญ้าเพียงเส้นเดียว แต่นำเอาทอง ๑๐๐ ลิ่มไปไม่ขัดข้อง.
จบ กุหกชาดกที่ ๙.
๑๐. อกตัญญูชาดก
ว่าด้วยคนอกตัญญู
             [๙๐] ผู้ใดอันคนอื่นทำความดี ทำประโยชน์ให้ในกาลก่อน แต่ไม่รู้สึกคุณ เมื่อมี                           กิจเกิดขึ้นในภายหลัง ย่อมไม่ได้ผู้ช่วยเหลือ.
จบ อกตัญญูชาดกที่ ๑๐.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น