๑. จุลลกาลิงคชาดก เทวดากีดกันความพยายามของคนไม่ได้ [๕๐๒] ท่านทั้งหลาย จงเปิดประตูถวายให้พระราชาเหล่านี้เสด็จเข้าไปสู่ ภายในพระนคร ข้าพเจ้าชื่อว่านนทิเสน เป็นอำมาตย์ดุจราชสีห์ของ พระเจ้าอรุณ ได้รับการศึกษามาเป็นอย่างดี จัดรักษาไว้เรียบร้อยแล้ว. [๕๐๓] แน่ะดาบสโกง ท่านได้พูดไว้อย่างนี้ว่า ชัยชนะ จักมีแก่พวกพระเจ้า- กาลิงคราช ผู้อดทนต่อภัยที่แสนยากจะอดทนได้ ความปราชัย จักมี แก่พวกอัสสกราช ชนทั้งหลายผู้ซื่อตรง ย่อมไม่พูดเท็จ. [๕๐๔] ข้าแต่ท้าวสักกะ เทวดาทั้งหลายยังประพฤติล่วงมุสาวาทอีกหรือ พระองค์พึงตรัสแต่ถ้อยคำที่จริง ที่แท้อย่างยิ่งมิใช่หรือ ข้าแต่ท้าวมัฆวาน เทวราช ผู้เป็นใหญ่กว่าปวงชน พระองค์ทรงอาศัยเหตุอะไรหรือ จึงได้ ตรัสมุสา? [๕๐๕] ดูกรพราหมณ์ เมื่อชนทั้งหลายพูดกันอยู่ ท่านก็เคยได้ยินแล้วมิใช่หรือ ว่า เทวดาทั้งหลาย ย่อมเกียดกันความพยายามของบุรุษไม่ได้ ความ ข่มใจ ความตั้งใจแน่วแน่ ความไม่แตกสามัคคีกัน ความไม่แก่งแย่งกัน การก้าวไปในกาลอันควร ความเพียรอย่างเด็ดเดี่ยว และความบากบั่น ของบุรุษ เพราะเหตุนั้นแหละ ชัยชนะ จึงมีแก่พวกพระเจ้าอัสสกะ.จบ จุลลกาลิงคชาดกที่ ๑. ๒. มหาอัสสาโรหชาดก ว่าด้วยการทำความดีไว้ในปางก่อน [๕๐๖] ผู้ใด ให้ทานในคนที่ไม่ควรให้ ไม่ให้ในคนที่ควรให้ ผู้นั้น ถึงจะได้ รับความทุกข์ในคราวมีอันตราย ก็ไม่ได้สหาย. [๕๐๗] ผู้ใด ไม่ให้ทานในคนที่ไม่ควรให้ ให้ในคนที่ควรให้ ผู้นั้น ถึงจะได้ รับความทุกข์ในคราวมีอันตราย ย่อมได้สหาย. [๕๐๘] การแสดงคุณวิเศษแห่งความเกี่ยวพัน และความสนิทสนมกันฉันท์มิตร ในชนทั้งหลายผู้ไม่มีอารยธรรม เป็นคนมักอวด ย่อมไร้ผล การแสดง คุณวิเศษแห่งความเกี่ยวพัน และความสนิทสนมกันฉันท์มิตร ที่กระทำ ในอารยชนทั้งหลายผู้ซื่อตรง คงที่ แม้เล็กน้อย ก็ย่อมมีผลมาก. [๕๐๙] ผู้ใด ได้ทำความดีงามไว้แต่กาลก่อนแล้ว ผู้นั้นชื่อว่า ได้ทำกิจที่ทำได้แสน ยากในโลก ภายหลัง เขาจะทำก็ตาม ชื่อว่า เป็นบุคคลผู้ควรบูชายิ่งนัก.จบ มหาอัสสาโรหชาดกที่ ๒. ๓. เอกราชชาดก คุณธรรมคือขันติและตบะ [๕๑๐] ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นเอกราช พระองค์เสวยกามคุณอันบริบูรณ์อย่างยิ่ง อยู่ในกาลก่อน มาบัดนี้ พระองค์ถูกโยนลงในบ่ออันขรุขระ เหตุไร จึงมิได้ละพระฉวีวรรณ และพระกำลังกายที่มีอยู่แต่เก่าก่อนเสียเลย? [๕๑๑] ข้าแต่พระเจ้าทุพภิเสน ขันติ และตบะ เป็นคุณธรรมที่หม่อมฉัน ปรารถนามาแต่เดิมแล้ว บัดนี้ หม่อมฉันได้สิ่งปรารถนานั้นแล้ว เหตุไร จะพึงละฉวีวรรณ และกำลังกายที่มีอยู่แต่เก่าก่อนเสียเล่า. [๕๑๒] ได้ทราบมาว่า กิจที่ควรทำทุกอย่างสำเร็จมาแต่ก่อนแล้ว เพราะข่มขี่ ครอบงำบุคคลผู้เปรื่องยศ มีปัญญา หม่อมฉันได้ยศอันยิ่งใหญ่แล้ว เหตุไร จักละฉวีวรรณ และกำลังกายที่มีอยู่แต่เก่าก่อนเล่า. [๕๑๓] ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมแห่งปวงชน สัตบุรุษทั้งหลาย บรรเทาความสุข ด้วยความทุกข์ หรือบรรเทาความทุกข์ด้วยความสุข เป็นผู้มีจิตเยือกเย็น ยิ่งนัก ในความสุข และความทุกข์ทั้งสองอย่าง ย่อมเป็นผู้มีจิตเป็นกลาง ทั้งในความสุข และความทุกข์ ดังตราชู ฉะนั้น.จบ เอกราชชาดกที่ ๓. ๔. ทัททรชาดก ไม่ควรถือตัวในที่ที่เขาไม่รู้จัก [๕๑๔] ข้าแต่พี่ทัททระ ถ้อยคำด่าว่าอันหยาบคายในมนุษยโลกเหล่านี้ ย่อมทำ ให้ฉันเดือดร้อน พวกเด็กๆ ชาวบ้านผู้ไม่มีพิษฤทธิ์เดช ยังมาด่าว่าเรา ผู้เป็นอสรพิษร้ายได้ว่า เป็นสัตว์กินกบกินเขียด และว่า เป็นสัตว์น้ำ. [๕๑๕] บุคคลผู้ถูกขับไล่จากแว่นแคว้นของตน ไปอยู่ยังถิ่นอื่นแล้ว ควรสร้าง- ฉางใหญ่ไว้ สำหรับเก็บคำหยาบคายทั้งหลาย. [๕๑๖] บุคคลอยู่ในสำนักคนผู้ไม่รู้จักชาติ และโคตรของตน ไม่พึงทำการถือตัว ในที่ที่ไม่มีใครรู้จักตน โดยชาติ หรือโดยวินัย. [๕๑๗] บุคคลผู้มีปัญญา แม้เปรียบเสมอด้วยไฟ เมื่อไปอยู่ต่างถิ่นไกล พึงอดทน แม้จะเป็นคำขู่ ตะคอกของทาสก็ตาม.จบ ทัททรชาดกที่ ๔. ๕. สีลวีมังสชาดก ความลับไม่มีในโลก [๕๑๘] ขึ้นชื่อว่าที่ลับ ย่อมไม่มีในโลก แก่คนผู้กระทำบาปกรรม ต้นไม้ที่เกิด ในป่าก็ยังมีคนเห็น คนพาลย่อมสำคัญบาปกรรมนั้นว่า เป็นที่ลับ. [๕๑๙] ข้าพเจ้าย่อมไม่เห็นที่ลับ หรือแม้ที่ว่างเปล่าก็ไม่มี ในที่ใด ข้าพเจ้าไม่เห็น ที่ว่างเปล่า ที่นั้นก็ไม่ว่างเปล่าจากข้าพเจ้า. [๕๒๐] มาณพผู้ใหญ่ ๖ คนนั้น คือ ทุชัจจะ ๑ สุชัจจะ ๑ นันทะ ๑ สุขวัจฉนะ ๑ วัชฌะ ๑ อัทธุวสีละ ๑ มีความต้องการธิดาของอาจารย์ พากันละธรรมเสีย. [๕๒๑] ส่วนพราหมณ์มาณพ เป็นผู้ถึงฝั่งแห่งธรรมทั้งปวง มีปัญญา มีความเพียร เครื่องก้าวหน้าในสัจธรรม ตามรักษาธรรมไว้ จะพึงละสตรีลาภเสีย อย่างไรได้.จบ สีลวีมังสชาดกที่ ๕. ๖. สุชาตาชาดก ได้รับโทษเพราะประมาท [๕๒๒] ข้าแต่พระราชสวามีผู้ประเสริฐ ไข่ที่เก็บไว้ในจานทองนี้ เป็นไข่อะไร ลูกกลมเกลี้ยง มีสีแดง หม่อมฉันทูลถามพระองค์ถึงสิ่งนั้น โปรดตรัส บอกด้วย. [๕๒๓] ดูกรพระเทวี เมื่อก่อนนี้ เธอเป็นหญิงหัวโล้น นุ่งผ้าท่อนเก่าๆ มือถือ ห่อพก เลือกเก็บผลไม้อันใดอยู่ สิ่งที่ฉันรับประทานอยู่ ณ บัดนี้ เป็น ผลไม้อันนั้น เป็นสมบัติประจำตระกูลของเธอ. [๕๒๔] หญิงทราม เมื่ออยู่ในราชสกุลนี้ ย่อมร้อนรน ไม่รื่นรมย์ โภคสมบัติ ทั้งหลาย ก็ย่อมละเขาไปเสียสิ้น ท่านทั้งหลาย จงช่วยกันนำหญิงทรามคน นั้นคืนไปไว้ที่ที่ เขาจักเก็บผลไม้ประจำตระกูลขายเลี้ยงชีวิตได้ตามเดิม. [๕๒๕] ข้าแต่พระมหาราช โทษเพราะความประมาทเหล่านี้ ย่อมมีได้แก่นารีผู้ ได้รับยศ ข้าแต่พระองค์ผู้สมมติเทพ ขอพระองค์ได้ทรงโปรดอดโทษแด่ พระนางสุชาดาเทวีเถิด ข้าแต่พระองค์ผู้ประเสริฐ ขอพระองค์อย่าได้ ทรงพระพิโรธแด่พระเทวีเลย.จบ สุชาตาชาดกที่ ๖. ๗. ปลาสชาดก ว่าด้วยขุมทรัพย์ที่ฝังไว้ที่โคนไม้ [๕๒๖] ดูกรพราหมณ์ ท่านก็รู้ว่า ต้นทองกวาวนี้ ไม่มีจิต ไม่ได้ยินเสียงอะไร และไม่รู้สึกอะไรเลย เพราะเหตุไร ท่านจึงเพียรพยายาม มิได้มีความ ประมาท ถามถึงสุขไสยาอยู่เสมอมา. [๕๒๗] ต้นทองกวาวต้นใหญ่ ปรากฏไปในที่ไกล ตั้งอยู่ในภูมิประเทศราบเรียบ เป็นที่อยู่อาศัยของทวยเทพ เพราะเหตุนั้น ข้าพเจ้าจึงนอบน้อมต้นทอง กวาวนี้ และเทพเจ้าผู้สิงอยู่ที่ต้นไม้นี้ด้วย เพราะเหตุแห่งทรัพย์. [๕๒๘] ดูกรพราหมณ์ ข้าพเจ้ามาเพ่งถึงความกตัญญูที่มีอยู่ในตน จักทำทดแทน คุณท่านตามสติกำลัง ความดิ้นรนของท่านผู้มาถึงสำนักของสัตบุรุษ ทั้งหลาย ไฉนจักเปล่าจากประโยชน์เล่า. [๕๒๙] ไม้เลียบต้นใด ตั้งล้อมรอบอยู่เบื้องหน้าต้นมะพลับ มหาชนเคยบูชายัญ กันมาแต่ก่อน เป็นต้นไม้ใหญ่ ขุมทรัพย์เขาฝังไว้ที่โคนต้นไม้เลียบนั้นแล ไม่มีเจ้าของ ท่านจงไปขุดเอาทรัพย์นั้นเถิด.จบ ปลาสชาดกที่ ๗. ๘. ชวสกุณชาดก ผู้ไม่มีกตัญญูไม่ควรคบ [๕๓๐] ข้าแต่พระยาเนื้อ ขอนอบน้อมแด่ท่าน ข้าพเจ้าได้ทำกิจอย่างหนึ่งแก่ ท่าน ตามกำลังของข้าพเจ้าที่มีอยู่ ข้าพเจ้าจะได้อะไรตอบแทนบ้าง? [๕๓๑] การที่ท่านเข้าไปอยู่ในระหว่างฟันของเรา ผู้มีเลือดเป็นภักษาหาร ผู้ทำ- กรรมอันหยาบช้าอยู่เป็นนิตย์ ท่านยังเป็นอยู่ได้ นั่นก็เป็นคุณมากอยู่แล้ว. [๕๓๒] น่าติเตียนคนที่ไม่รู้คุณที่เขาทำแล้ว ผู้ไม่ทำคุณให้ใคร และผู้ที่ไม่ทำ ตอบแทนคุณที่เขาทำก่อน ความกตัญญูไม่มีในคนใด การคบคนนั้น ย่อมไร้ประโยชน์. [๕๓๓] บุคคลไม่ได้มิตรธรรมด้วยอุปการคุณที่ตนประพฤติต่อหน้าในผู้ใด ผู้นั้น บัณฑิตไม่ต้องริษยา ไม่ต้องด่าว่า พึงค่อยๆ หลีกออกห่างจากผู้นั้นไป เสีย.จบ ชวสกุณชาดกที่ ๘. ๙. ฉวชาดก ว่าด้วยการนั่งที่ไม่สมควร [๕๓๔] กิจทั้งหมดที่เราทั้งสองกระทำแล้ว เป็นกิจลามก คนทั้ง ๒ ไม่เห็นธรรม คนทั้ง ๒ เคลื่อนแล้วจากปกติเดิม คือ อาจารย์นั่งบนอาสนะต่ำบอก มนต์ และศิษย์นั่งบนอาสนะสูงเรียนมนต์. [๕๓๕] เราบริโภคข้าวสุกแห่งข้าวสาลีขาวสะอาด ปรุงด้วยเนื้อ (ของพระราชา พระองค์นี้) เพราะเหตุนั้น เราจึงไม่ซ่องเสพธรรมนั้น ที่พวกฤาษี ซ่องเสพมาแล้ว. [๕๓๖] ท่านจงหลีกไปเสียเถิด ขึ้นชื่อว่าโลกกว้างใหญ่ แม้คนอื่นๆ ก็หุงต้มกิน เพราะเหตุนั้น อธรรมที่ท่านประพฤติมาแล้ว อย่าทำลายท่านเสียเลย ดุจก้อนหินต่อยหม้อให้แตก ฉะนั้น. [๕๓๗] ดูกรพราหมณ์ เราติเตียนการได้ยศ การได้ทรัพย์ และความประพฤติ เลี้ยงชีวิต ด้วยการทำตนให้ตกต่ำ หรือด้วยการประพฤติไม่เป็นธรรม.จบ ฉวชาดกที่ ๙. ๑๐. สัยหชาดก ว่าด้วยการแสวงหาที่ประเสริฐ [๕๓๘] บัณฑิตไม่พึงปรารถนาพื้นแผ่นดิน มีสัณฐานดุจกุณฑลท่ามกลางสาคร มีมหาสมุทรล้อมอยู่โดยรอบ พร้อมด้วยการนินทา ดูกรสัยหอำมาตย์ ท่านจงรู้อย่างนี้เถิด. [๕๓๙] ดูกรพราหมณ์ เราติเตียนการได้ยศ การได้ทรัพย์ และความประพฤติ เลี้ยงชีวิต ด้วยการทำตนให้ตกต่ำ หรือด้วยการประพฤติไม่เป็นธรรม. [๕๔๐] ถึงแม้เราบวชเป็นบรรพชิต ถือภาชนะเที่ยวภิกขาจาร ความประพฤติ เลี้ยงชีวิตนั้นแหละประเสริฐกว่า การแสวงหาโดยไม่เป็นธรรมจะ ประเสริฐอะไร. [๕๔๑] ถึงแม้เราออกบวช ถือภาชนะเที่ยวภิกขาจาร ไม่เบียดเบียนผู้อื่นในโลก นั้น ประเสริฐกว่าราชสมบัติเสียอีก.จบ สัยหชาดกที่ ๑๐.
วันอาทิตย์ที่ 14 ธันวาคม พ.ศ. 2557
จุลลกาลิงคชาดก
ป้ายกำกับ:
จุลลกาลิงคชาดก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น