วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557

อสทิสชาดก

๑. อสทิสชาดก
ว่าด้วยอสทิสกุมาร
             [๒๑๑] เจ้าชายพระนามว่าอสทิสกุมาร เป็นนักธนู มีกำลังมาก ยิงธนูให้ไป                           ตกในที่ไกลๆ ได้ ยิงไม่ค่อยพลาด สามารถทำลายของกองใหญ่ๆ ได้.              [๒๑๒] พระองค์ทรงทำการรบให้ข้าศึกทั้งปวงหนีไป แต่มิได้เบียดเบียนใครๆ                           เลย ทรงทำพระกนิฏฐภาดาให้มีความสวัสดีแล้ว ก็เข้าถึงความสำรวม.
จบ อสทิสชาดกที่ ๑.
๒. สังคามาวจรชาดก
ว่าด้วยช้างเข้าสงคราม
             [๒๑๓] ดูกรกุญชร ท่านปรากฏว่า เป็นผู้เคยเข้าสู่สงคราม มีความแกล้วกล้า                           มีกำลังมาก เข้ามาใกล้เขื่อนประตูแล้ว เหตุไรจึงถอยกลับเสียเล่า?              [๒๑๔] ดูกรกุญชร ท่านจงหักล้างลิ่มกลอน ถอนเสาระเนียด และทำลาย                           เขื่อนทั้งหลายแล้ว เข้าประตูให้ได้โดยเร็วเถิด.
จบ สังคามาวจรชาดกที่ ๒.
๓. วาโลทกชาดก
ว่าด้วยน้ำหาง
             [๒๑๕] (พระราชาตรัสถามว่า) ความเมาย่อมเกิดแก่ลาทั้งหลาย เพราะดื่มกิน                           น้ำหาง มีรสน้อย เป็นน้ำเลว แต่ความเมาย่อมไม่เกิดแก่ม้าสินธพ                           เพราะดื่มกินน้ำมีรสอร่อย ประณีต.              [๒๑๖] (พระโพธิสัตว์กราบทูลว่า) ข้าแต่พระองค์ผู้เป็นจอมแห่งชน สัตว์ผู้มี                           ชาติอันเลวทราม ดื่มกินน้ำมีรสน้อย อันรสนั้นถูกต้องแล้ว ย่อมเมา                           ส่วนสัตว์ผู้มีปกติทำธุระให้สำเร็จได้ เกิดในตระกูลสูง ดื่มกินรสอันเลิศ                           แล้ว ก็ไม่เมา.
จบ วาโลทกชาดกที่ ๓.
๔. คิริทัตตชาดก
ว่าด้วยการเอาอย่าง
             [๒๑๗] (พระโพธิสัตว์กราบทูลพระราชาว่า) ม้าชื่อปัณฑวะของพระเจ้าสามะ                           ถูกนายควาญม้าชื่อคิริทัตต์ประทุษร้าย จึงละปกติเดิมของตน ศึกษา                           เอาอย่างนายควาญม้านั่นเอง.              [๒๑๘] ถ้าบุรุษผู้บริบูรณ์ด้วยอาการอันงดงาม สมควรแก่ม้านั้น ตบแต่งร่าง                           กายงดงาม จับจูงม้านั้นที่บังเหียนพาเวียนไปรอบๆ สนามม้าไซร้ ไม่ช้า                           เท่าไร ม้านี้ก็จะละความเป็นกระจอกเสีย ศึกษาเอาอย่างบุรุษนั้นเทียว.
จบ คิริทัตตชาดกที่ ๔.
๕. อนภิรติชาดก
ว่าด้วยจิตขุ่นมัว-ไม่ขุ่นมัว
             [๒๑๙] เมื่อน้ำขุ่นมัว ไม่ใส บุคคลย่อมไม่แลเห็นหอยกาบ หอยโข่ง กรวด                           ทราย และฝูงปลา ฉันใด เมื่อจิตขุ่นมัว บุคคลก็ย่อมไม่เห็นประโยชน์                           ตน และประโยชน์ผู้อื่น ฉันนั้น.              [๒๒๐] เมื่อน้ำไม่ขุ่นมัว ใสบริสุทธิ์ บุคคลย่อมแลเห็นหอยกาบ หอยโข่ง                           กรวด ทราย และฝูงปลา ฉันใด เมื่อจิตไม่ขุ่นมัว บุคคลก็ย่อมเห็น                           ประโยชน์ตน และประโยชน์ผู้อื่น ฉันนั้น.
จบ อนภิรติชาดกที่ ๕.
๖. ทธิวาหนชาดก
ว่าด้วยพระเจ้าทธิวาหนะ
             [๒๒๑] (พระเจ้าทธิวาหนะตรัสถามว่า) แต่ก่อนมา มะม่วงต้นนี้บริบูรณ์ด้วยสี                           กลิ่น และรส ได้รับการบำรุงอยู่เช่นเดิม เหตุไรจึงมีผลขื่นขมไปเล่า?              [๒๒๒] (พระโพธิสัตว์ทูลว่า) ข้าแต่พระเจ้าทธิวาหนะ มะม่วงของพระองค์                           มีต้นสะเดาแวดล้อมอยู่ รากต่อรากเกี่ยวพันกัน กิ่งต่อกิ่งเกี่ยวประสาน                           กัน เหตุที่อยู่ร่วมกันกับต้นสะเดาที่มีรสขม มะม่วงจึงมีผลขมไปด้วย.
จบ ทธิวาหนชาดกที่ ๖.
๗. จตุมัฏฐชาดก
ผู้เลวทราม ๔ อย่าง
             [๒๒๓] ท่านทั้งสองพากันขึ้นไปบนค่าคบไม้อันสูง อยู่ในที่ลับแล้วปรึกษากัน                           เชิญท่านลงมาปรึกษากันในที่ต่ำเถิด พระยาเนื้อจักได้ฟังบ้าง.              [๒๒๔] สุบรรณกับสุบรรณเขาปรึกษากัน เทวดากับเทวดาเขาพูดกันในเรื่องนี้                           จะมีประโยชน์อะไรแก่สุนัขจิ้งจอกเลวทราม ๔ อย่าง (สรีระ ๑ ชาติ ๑                           เสียง ๑ คุณ ๑) เล่า แน่ะสุนัขจิ้งจอกตัวชาติชั่ว เจ้าจงเข้าไปสู่                           ปล่องเถิด.
จบ จตุมัฏฐชาดกที่ ๗.
๘. สีหโกตถุกชาดก
ตัวเหมือนราชสีห์แต่เสียงไม่เหมือน
             [๒๒๕] ราชสีห์ตัวนั้น นิ้วก็นิ้วราชสีห์ เล็บก็เล็บราชสีห์ ยืนก็ยืนด้วยเท้าราชสีห์                           มีอยู่ตัวเดียวในหมู่ราชสีห์ ย่อมบันลือด้วยเสียงอีกอย่างหนึ่ง.              [๒๒๖] ดูกรเจ้าเป็นบุตรแห่งราชสีห์ เจ้าอย่าบันลือเสียงอีกเลย จงมีเสียง                           เบาๆ อยู่ในป่า เขาทั้งหลายพึงรู้จักเจ้าด้วยเสียงนั่นแหละ เพราะเสียง                           ของเจ้า ไม่เหมือนกับเสียงราชสีห์ผู้เป็นบิดา.
จบ สีหโกตถุกชาดกที่ ๘.
๙. สีหจัมมชาดก
ลาปลอมเป็นราชสีห์
             [๒๒๗] นี่ไม่ใช่เสียงบันลือของราชสีห์ ไม่ใช่เสียงบันลือของเสือโคร่ง ไม่                           ใช่เสียงบันลือของเสือเหลือง ลาผู้ลามกคลุมตัวด้วยหนังราชสีห์บัน                           ลือเสียง.              [๒๒๘] ลาเอาหนังราชสีห์คลุมตัว เที่ยวกินข้าวกล้านานมาแล้ว ร้องให้เขารู้                           ว่า เป็นตัวลา ได้ประทุษร้ายตนเองแล้ว.
จบ สีหจัมมชาดกที่ ๙.
๑๐. สีลานิสังสชาดก
ว่าด้วยอานิสงส์ศีล
             [๒๒๙] จงดูผลของศรัทธา ศีล และจาคะ นี้เถิด พระยานาคนิรมิตเพศเป็น                           เรือ พาอุบาสกผู้มีศรัทธาไป.              [๒๓๐] บุคคลพึงสมาคมกับสัตบุรุษทั้งหลายเถิด พึงทำความสนิทสนมกับ                           สัตบุรุษทั้งหลายเถิด ด้วยว่าช่างกัลบกถึงความสวัสดีได้ ก็เพราะการ                           อยู่ร่วมกับสัตบุรุษทั้งหลาย.
จบ สีลานิสังสชาดกที่ ๑๐.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น