วันเสาร์ที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ปโรสตชาดก

๑. ปโรสตชาดก
คนมีปัญญาคนเดียวดีกว่าคนโง่เขลาตั้งร้อย
             [๑๐๑] คนโง่เขลามาประชุมกัน แม้ตั้งร้อยคนขึ้นไป พวกเขาไม่มีปัญญา พึงเพ่ง                           ดูอยู่ตั้งร้อยปี ผู้ใดรู้แจ้งเนื้อความแห่งภาษิต ผู้นั้นเป็นบุรุษมีปัญญา                           คนเดียวเท่านั้น ประเสริฐกว่า.
จบ ปโรสตชาดกที่ ๑.
๒. ปัณณิกชาดก
ว่าด้วยที่พึงให้โทษ
             [๑๐๒] ผู้ใดเมื่อดิฉันได้รับทุกข์พึงเป็นที่พึ่งได้ ผู้นั้นคือบิดาของดิฉันกลับมาทำ                           ความประทุษร้ายแก่ดิฉันในป่า ดิฉันจะคร่ำครวญถึงใครในกลางป่า ผู้ใด                           ควรจะเป็นที่พึ่งของดิฉัน ผู้นั้นกลับมาทำกรรมอย่างสาหัส.
จบ ปัณณิกชาดกที่ ๒.
๓. เวริชาดก
การอยู่ร่วมกับมีเวรกัน
             [๑๐๓] คนมีเวรกันอยู่ในที่ใด บัณฑิตไม่ควรอยู่ในที่นั้น เพราะเมื่ออยู่ในพวก                           คนมีเวรกันคืนเดียว หรือสองคืน ก็อยู่เป็นทุกข์.
จบ เวริชาดกที่ ๓.
๔. มิตตวินทชาดก
โทษผู้ลุอำนาจความปรารถนา
             [๑๐๔] ผู้มีความปรารถนาจัด มี ๔ ก็ต้องการ ๘ มี ๘ ก็ต้องการ ๑๖ มี ๑๖ ก็ต้อง                           การ ๓๒ บัดนี้ มาได้รับกงจักรกรด กงจักรกรดพัดอยู่เหนือศีรษะ                           ของคนผู้ลุอำนาจความปรารถนา.
จบ มิตตวินทชาดกที่ ๔.
๕. ทุพพลกัฏฐชาดก
ว่าด้วยช้างกลัวไม้แห้ง
             [๑๐๕] ลมย่อมพัดไม้แห้งที่ทุรพลในป่านี้ แม้มีจำนวนมากมายให้หักลง ดูกร                           ช้างตัวประเสริฐ ถ้าท่านมากลัวต่อไม้แห้งนั้น ท่านจักซูบผอมเป็นแน่.
จบ ทุพพลกัฏฐชาดกที่ ๕.
๖. อุทัญจนีชาดก
ว่าด้วยหญิงโจร
             [๑๐๖] หญิงโจรผู้นำของไปด้วยหม้อน้ำ เบียดเบียนฉัน ผู้เคยมีชีวิตอยู่เป็นสุข                           จะขอน้ำมัน หรือเกลือ ก็ด้วยการกล่าวคำอ่อนหวานฐานเป็นภรรยา.
จบ อุทัญจนีชาดกที่ ๖.
๗. สาลิตตกชาดก
ว่าด้วยคนมีศิลปะ
             [๑๐๗] ขึ้นชื่อว่าศิลปะแม้อย่างใดอย่างหนึ่ง ย่อมยังประโยชน์ให้สำเร็จโดยแท้                           ขอเชิญพระองค์ ทรงทอดพระเนตร บุรุษเปลี้ยได้บ้านส่วยทั้ง ๔ ทิศ                           ก็เพราะการดีดมูลแพะ.
จบ สาลิตตกชาดกที่ ๗.
๘. พาหิยชาดก
เป็นคนควรศึกษาศิลปะ
             [๑๐๘] บุคคลควรศึกษาศิลปะทั้งหลาย ชนทั้งหลายที่พอใจในศิลปะนั้นก็มีอยู่                           แม้แต่หญิงที่เกิดในจังหวัดชั้นนอก ก็ยังทำให้พระราชาทรงโปรดปรานได้                           ด้วยความกระมิดกระเมี้ยนของเธอ.
จบ พาหิยชาดกที่ ๘.
๙. กุณฑกปูวชาดก
ว่าด้วยมีอย่างไรกินอย่างนั้น
             [๑๐๙] บุรุษกินอย่างไร เทวดาของบุรุษนั้นก็กินอย่างนั้น ท่านจงนำเอาขนมรำ                           นั้นมา อย่าให้ส่วนของเราเสียไปเลย.
จบ กุณฑกปูวชาดกที่ ๙.
๑๐. สัพพสังหารกปัญหา
ว่าด้วยการพูดของหญิง ๒ ประเภท
             [๑๑๐] กลิ่นเครื่องอบทั้งปวงไม่มี มีแต่กลิ่นดอกประยงค์ล้วนฟุ้งไป หญิงนักเลง                           คนนี้ ย่อมกล่าวคำเหลาะแหละ หญิงผู้ใหญ่กล่าวคำจริง.
จบ สัพพสังหารกปัญหาที่ ๑๐.

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น